สายใยแก้วนำแสง
ลักษณะของสายใยแก้วนำแสง 1. แกนแท่งแก้ว 2. ส่วนห่อหุ้ม ทำให้แสงสะท้อนภายในแกน 3. ส่วนป้องกัน ป้องกันแสงจากภายนอก 4. ส่วนเพิ่มความแข็งแรง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับใยแก้ว 5. ส่วนหุ้มภายนอก ป้องกันการโค้งงอของสาย |
ในการรับส่งมีองค์ประกอบสามส่วนคือ 1. อุปกรณ์กำเนิดแสง 2. ตัวกลาง(สายใยแก้วนำแสง) 3. อุปกรณ์ตรวจรับแสง(Photo detector) |
ตัวกำเนิดแสงแบ่งได้ 2 ชนิด 1. แอลอีดี(LED) ใช้ในระยะที่ไม่ไกลมาก 2. เลเซอร์ไดโอด(ILD) เหมาะสำหรับใช้ในระยะไกลๆ |
หลักการส่งสัญญาณผ่านสายใยแก้วนำแสง 1. ธรรมชาติของแสง เมื่อมุมตกกระทบมากกว่ามุมวิกฤติทำให้เกิดการสะท้อน ทำให้สัญญาณเกิดการสะท้อนไปข้างหน้าในแท่งแก้วไปเรื่อยๆ จนกระ่ทั่งถึงปลายทาง 2. คุณสมบัติสายใยแก้วนำแสง สายมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับสายชนิดอื่น มีความปลอดภัย และมีสัญญาณรบกวนต่ำ |
ชนิดของสายใยแก้วนำแสง แบ่งเป็นสองชนิด คือมัลติโหมด
(MM) และซิงเกิ้ลโหมด(SM) มัลติโหมดยังแบ่งได้อีกสองแบบ คือ Step index(SI ) และ Graded Index(GI) |
สายใยแก้วนำแสงแบบมัลติโหมด
สัญญาณแสงหลายลำแสงจะถูกส่งจากแหล่งกำเนิด ด้วยมุมหักเหที่ต่างกัน ภายในแกนกลางสาย
ยิ่งสายกว้างยิ่งมีมุมตกกระทบที่มากขึ้นด้วย สามารถแบ่งย่อยได้อีสองแบบคือ 1. แบบ Step Index สายจะมีความหนาแน่นเท่ากันทั้งสายมีขนาดส่วนห่อหุ้ม 125-400 ไมโครเมตร แกนมีขนาด 50-200 ไมโครเมตร ดังนั้นลำแสงที่มีมุมตกกระทบที่แตกต่างกันจะหักเหสะท้อนด้วยมุมที่ต่างกัน ทำให้แสงเคลื่อนที่ถึงปลายทางไม่พร้อมกัน 2. แบบ Graded Index ความหนาแน่นตลอดทั้งสายไม่เท่ากัน ตรงกลางหนาแน่นน้อยที่สุด และค่อยๆเพิ่มจนสูงสุดตรงส่วนห่อหุ้มส่วนห่อหุ้มมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 125-140 ไมโครเมตร แกนกลางมีขนาด 50-100 ไมโครเมตร เมื่อส่งลำแสงเข้าไป แลงจะค่อยๆ หักเหตามความหนาแน่น จนหักเหกลับหมดที่ส่วนห่อหุ้ม การหักเหมีลักษณะ เป็นส่วนโค้ง แต่สายแบบนี้มีความนิยมใช้ลดลงเนื่องจากราคาสูงเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ |
สายใยแก้วนำแสงแบบซิงเกิ้ลโหมด
เส้นผ่าศูนย์กลางของส่วนห่อหุ้ม 125 ไมโครเมตร แกนมีขนาด 8-12 ไมโครเมตร
มีขนาดน้อยกว่าแบบมัลติโหมด การส่งลำแสงจะส่งออกไปเกือบเป็นเส้นตรง
ทำให้แสงเดินทางเป็นแนวนอนโดยไม่ได้อาศัยหลักการหักเห และการสะท้อน
ทำให้มีประสิทธิภาพการรับส่งสูง ระยะรับส่งไกลถึง 2,000 เมตร อัตราสูญเสีย
และบิดเบือนข้อมูลต่ำสุด |
การเชื่อมต่อของสายใยแก้วนำแสง หัวต่อที่นิยมมี 3 แบบ 1. หัวต่อแบบ SC ออกแบบโดย AT&T ใช้เชื่อมต่อทั้งซิงเกิ้ลโหมด และมัลติโหมด 2. หัวต่อแบบ ST เป็นหัวต่อที่ใช้งานแบบซิงเกิ้ลโหมด และมัลติโหมดมากที่สุด อัตราการสูญเสียแสงไม่เกิน 0.5 เดซิเบล 3. หัวต่อแบบ FC ออกแบบโดย NTT ของญี่ปุ่น |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น